สิ่งทีทักษิณชอบเอาดีใส่ตัวแล้วโยนชั่วให้กับคนอื่น ตอน ทักษิณใช้หนี้ IMF
การกระทำที่เรียกว่า "เอาดีใส่ตัวแล้วโยนชั่วให้กับคนอื่น" เป็นสิ่งที่ทักษิณถนัดนัก ที่เป็นแบบนี้ก็เพราะว่า ตัวเองไม่สามารถสร้างผลงานที่เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมอย่างแท้จริงได้ ก็เลยใช้วิธีไปหยิบผลงานคนอื่นมาตกแต่งนั่นนี่นู็้นนิดนิดหน่อยหน่อยแล้วบอกว่า เป็นผลงานตัวเอง ผ่านทางวิธีโฆษณาชวนเชื่อ สร้างความเข้าใจผิดให้ผู้คน ตบตาคนโง่ซึ่งผ่านอยู่หรอก แต่มันไม่มีทางตบตาคนดี ๆ ที่เสียภาษีได้หรอก มาดูรายละเอียดกันเลยเรื่อง ทักษิณใช้หนี้ IMF
ปี2540 สมัยรัฐบาล พล.อ. ชวลิต ยงใจยุทธ เป็นนายกรัฐมนตรี ได้ถูก จอร์ช โซลอส โจมตีค่าเงินบาท และรัฐบาลได้ทุ่มเงินกว่า3หมื่นล้านเหรียญต่อสู้ เพื่อพยุงค่าเงินบาทไว้ แต่ผลปรากฏว่าแพ้อย่างราบคาบ จนเงินทุนสำรองเหลือเพียง 800 ล้านเหรียญซึ่งมีผลทำให้เครดิต ของประเทศไม่เป็นที่ยอมรับเพื่อจะทำการค้าระหว่างประเทศ รัฐบาลชวลิต ต้องลอยค่าเงินบาทเป็นผลให้ ค่าของเงินตกต่ำอย่างสุดขีด จากเดิม 25 บาทล่วงไปถึง56บาทต่อ1ดอลล่าร์ และเป็นเหตุให้ รัฐบาล พล.อ.ชวลิต จำเป็นต้องกู้เงินจาก IMFมาเพื่อพยุงสถานะของประเทศเมื่อ 22 กรกฎาคา 2540 จำนวน 17200 ล้านเหรียญ และจากการกู้เงินนี้ ทำให้ประเทศต้องอยู่ในเงินไขของIMF หรือที่เรียกกันว่าLOI ในทุกครั้งที่ไปเบิกเงินกู้และหลังจากทำสัญญาเงินกู้ได้ 2 วัน ทักษิณ ชินวัตร ก็เข้าร่วมเป็นรองนายกรัฐมนตรีโดยดูแลด้านเศรษฐกิจมีข้อสังเกตุที่น่าสนใจ ในช่วงลอยค่าเงินบาท จาก25บาทต่อเหรียญเป็น 56 บาทต่อเหรียญซึ่งตอนนั้น บริษัทต่างๆกู้เงินตราต่างประเทศมาลงทุน ล้มทั้งยืน มีหนี้สินเพิ่มขึ้นเท่าตัว อาทิเช่น ปูนซีเมนต์ไทย ทีพีไอ เป็นต้น แต่ ไทยคม ของ ทักษิณ ชินวัตร กลับไม่กระทบเลย จนเป็นที่มาของคำพูด นายเสนาะเทียนทอง ที่ว่า คนบางคนยอมเผาบ้านเผาเมืองตนเองเพื่อความร่ำรวยหลังจากกู้เงินIMFแล้ว รัฐบาล พล.ชวลิต ยงใจยุทธ ซึ่งมี ทักษิณ ชินวัตร เป็นรองนายกรัฐมนตรี พยายามแก้ปัญหาทางเศรษฐกิจอย่างเต็มที่และได้เบิกเงิน จากIMF มา2งวดแล้ว จำนวนเงิน4000ล้านเหรียญ แต่ไม่สามารถแก้ปัญหาเสรษฐกิจได้ จนต้องยอม ลาออกไปในปลายปี2540ปี2541 รัฐบาลชวนเข้ามาบริหารงานแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจต่อ และได้เบิกเงินกู้เพิ่มอีก9ครั้ง เป็นจำนวนเงินรวม 10000 ล้านเหรียญสรุป รัฐบาล พล.อ. ชวลิต รวมกับ รัฐบาล ชวน กู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจในครั้งนี้ รวมทั้งสิ้น 4000+10000 = 14000 ล้านเหรียญสหรัฐ (น้อยกว่าที่ทำสัญญากู้กับ IMF 3200 ล้านเหรียญ)ตั้งแต่ปลายปี 2543-2545 เงินกู้จำนวนดังกล่าวได้ถูกทยอยใช้หนี้มาโดยตลอด จนเหลือหนี้ 4800 ล้านเหรียญรัฐบาล ทักษิณ ชินวัตร ได้ตัดสินใจใช้หนี้ส่วนที่เหลือทั้งหมด ในปี 2546 จำนวนเงิน 4800 ล้านดอลล่าร์ โดยแบ่งจ่ายเป็น 3 งวดๆละ 1600 ล้าน ซึ่งก่อนกำหนดสัญญาไว้ 2 ปีประเด็นที่ต้อง วิเคราะห์คือ การที่ ทักษิณ ชินวัตร ตัดสินใจใช้หนี้ก่อนถึงกำหนด 2 ปี มีผลดี หรือ ผลเสีย กันแน่ถ้าใช้หลักทางเศรษฐศาสตร์ในปี 2546 ดอกเบี้ยเงินฝากภายในประเทศเฉลี่ยปีละ 8% ในขณะที่IMF คิดดอกเบี้ยจากเราแค่ 0.25% และอีกประการหนึ่งที่สำคัญคือ ถ้าจ่ายหนี้ก่อนกำหนด ต้องเสียค่าปรับอีก 2%ถ้าตอนนั้น เรามีเงิน 4800 ล้านเหรียญ แปลงเป็นเงินไทย อัตราแลกเปลี่ยนตอนนั้น 41 บาทต่อดอล่าร์ คิดเป้นเงินไทย 196,800 ล้านบาท เอาฝากธนาคารไว้ 2ปี หักภาษีแล้วจะได้ ดอกเบี้ย ประมาณ 28000 ล้านบาท และ เสียดอกเบี้ยให้ IMF 2ปี จำนวน 984 ล้านบาท คงเหลือกำไร กว่า 27000 ล้านบาทแต่ ทักษิณ เลือกที่จะใช้หนี้ก่อน ผลคือ เราเสียค่าปรับ 2% จำนวน 3936 ล้านบาท ลดดอกเบี้ย 2ปีลงได้ 984 ล้านบาท ถ้าเอาค่าปรับที่เสีย ลบด้วยดอกเบี้ยที่ไม่ต้องจ่าย จะเหลือ ค่าปรับ 2952ล้านบาทคำถามก็คือ ถ้า ณ.วันนั้น ประเทศเรามีเงินสด 4800 ล้านเหรียญ หรือ 196,800 ล้านบาท เรายังไม่ชำระหนี้ แต่ฝากในธนาคารไว้เราจะได้ดอกเบี้ย เพิ่มขึ้นฟรีๆประมาณ27000 ล้านบาท แต่ถ้าเราชำระหนี้ก่อนกำหนด เราต้องเสียเงินเพิ่มอีก 2952 ล้านบาทคำถามก็คือ ประเทศได้อะไร จากการตัดสิ้นใจครั้งนี้ จะว่า เพราะทำให้ประเทศพ้นจากหนี้สิน แต่เมื่อไปดูข้อมูลจากธนาคารแห่งประเทศไทย กลับปรากฏว่า เงินจำนวน4800ล้านเหรียญ ที่ ทักษิณ ชำระหนี้นั้น ส่วนหนึ่ง กลับเป็นเงินกู้จาก เอ ดี บี และเมื่อดูหนี้ สาธารณะของประเทศ ณ.ปี 2546 หลังจากจ่ายเงินคืน IMF หมดแล้ว กลับเพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับหนี้สาธารณะช่วงปลายรัฐบาล ชวน2 ส่งไม้ให้กับ รัฐบาล ทักษิณ1 ถึงกว่า4000ล้านคำถามที่คาใจจริงๆคือ หนี้สินของประเทศกHไม่ได้ลดลงจากการใช้หนี้IMF แล้ว ทักษิณ ไปกู้ เอดีบี มาเพื่อใช้หนี้ IMF ทำไมอีกคำถามหนึ่งคือ ทักษิณ ประกาศให้ชาวบ้านรู้กันทั้วว่า เขาเป็นคนใช้หนี้IMF ทั้งๆ ตอนไปเบิกเงินกู้ก้อนที่1 และก้อนที่2 เขาเป็นรองนายกรัฐมนตรีในรัฐบาลชวลิต และการที่ใช้หนี้ก่อนกำหนด ประเทศต้องเสียค่าปรับตั้ง2%ซึ่งเป็นเงินถึง 3636 ล้านบาทเปิดคำพิพากษาไขความลับ'โภคิน-ทักษิณ' ลดค่าเงินบาทใครได้ประโยชน์ http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=166"ทักษิณ" ไม่ใช่วีรบุรุษ กรณีใช้หนี้ไอเอ็มเอฟhttp://www.pantown.com/market.php?id=20 ... ction=viewแฉ ทักษิณ ตั้งวินมาร์คซุกกำไรเงินบาทลอยตัวสมัย บิ๊กจิ๋ว http://tnews.teenee.com/politic/514.htmlรวมข้อเขียนเรื่อง ความจริงคือ...การปลดหนี้ IMF ไม่ใช่ผลงานคุณทักษิณhttp://www.oknation.net/blog/benz/2007/08/01/entry-1
-----------------------------------------------
ความเห็นเพิ่มเติม
ทักษิณปลดหนี้ IMF ได้จิง 555++ ถามหน่อยแม่งเอาเงินมาจากไหนว่ะ มันก็เอาเงินมาจาก"กองพระคลัง" แล้วที่ประชาธิปัตย์ออกมาเป็นฝ่ายค้านมันก็ถูก เพราะคนที่นำเงินเข้ากองพระคลัง คือ >>นายชวน<<แล้วตอนนี้อารัยว่ะ เงินในพระคลังหมดแล้ว ติดลบแล้ว..แล้วรู้ไรมั้ย พอติดลบแล้ว ทักษิณหากินไงอีก มันก็ออกธนบัตรออกมา ใบละหมื่น แสน ล้าน พอซื้อแล้วเก็บไว้ (คนที่ซื้อก็ได้ดอกเบี้ย) แล้วพอแม่งขายหมด มันก็เอาเงินมาหมุน แล้วไง พอหมดก็มาออกธนบัตรอีก งี้แม่งไม่ติดลบได้ไง ดูทักษิณดิ..เป็นนายก วันนึงดอกเบี้ยได้วันละล้าน แต่ ชวน ถึงแม้ไม่มีบทบาทมาก จากการเป็นนายก 3 ปี ชวนได้เงินเพิ่มขึ้นมา แค่ 1 ล้าน ((ทักษิณได้กี่เท่า))แล้วรู้ได้ไงว่ะ ถามหน่อย..ว่าสิงคโปร์ เอาเงินมาให้ประเทศ มองอารัยมองยาวๆ มันไม่ได้ให้เรา ไม่ได้ให้ประเทศ แต่มันให้ทักษิณ! ทักษิณขายหุ้น AIS ถามหน่อยใครได้..ทักษิณให้ประเทศมั้ย? แล้วเรื่องที่ก่อม๊อบประท้วง* เค้าต่อต้านขนาดนี้แล้ว ทำไมไม่ลาออก อยู่ทำไม? พราะอะไรรู้ม่ะ เพราะสิงคโปร์ไง ถ้าทักษิณลาออก เสถียรภาพการซื้อหุ้นจะเป็นไง คิดดู... ถึงชวนจะไม่ค่อยมีบทบาท แต่ก็รู้จักใช้เงิน รู้จักเก็บเงินเข้ากองพระคลัง แล้วทักษิณหล่ะ..คุณทำอะไร?นอกจากดึงเงินออกมาใช้ ...คนไทยเป็นหนี้เท่าไหร่... บอกให้นู้นให้นี่..แล้วงัยหล่ะ! ต้องกลับมาใช้หนี้อีก* แต่พวกก่อม๊อบ มันก็ไม่ใช่ว่าถูกหรอก แต่ถามหน่อย?? เหตุผลอะไรก่อหล่ะ ถ้าไม่อยากบีบให้ทักษิณออก ใครอยู่ว่าง ๆ จะมาสร้างสถานการณ์ทำไม พิจารณาเองนะ คนไทยไม่ตามใคร
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น